วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Phil Jackson and คิดอย่างแชมป์บาสโลก ตอน 2

โค้ชแจ๊คสันบอกว่า "ก็ให้หยุดความคิดวอกแวกทั้งสิ้นทั้งปวงเสียเพื่อให้ร่างกายของเราทำหน้าที่ตามสัญชาตญาณที่มันถูกฝึกถูกสอนให้ทำกลางสนามบาส โดยไม่ให้สมองเข้ามาป้วนเปี้ยน สร้างความสับสนโดยไม่จำเป็น..."

ความเป็นเซนอยู่ที่การทำทุกอย่าง (ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบาสอันคล่องแคล่วหรือเอาขยะไปทิ้งหลังบ้าน) ด้วยความแม่นยำ และ รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ทุกขณะจิต

คำว่า "ทุกขณะจิต" หรือ moment to moment คือหัวใจของความเป็นเซน เพราะนั่นหมายถึงการรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ในทุกจังหวะ ไม่ปล่อยให้สมอง หรือ ความคิดพาโลดแล่นไปมา ซึ่งจะทำให้ความแม่นยำและความเคลื่อนไหวที่ควรจะเป็นไปตามธรรมชาตินั้นขาดหายเป็นช่วงๆ

เป็นคำประกาศของโค้ชมะกันที่ฟังแล้วน่าประหลาด เพราะวัฒนธรรมตะวันตกแต่ก่อนย่อมไม่สนใจใยดีกับความเป็นธรรมชาติแห่งเซน แต่โค้ชระดับโลกคนนี้กำลังบอกเราว่า ความเป็นตะวันออกนั่นแหละคือสูตรแห่งความสำเร็จของนักกีฬาระดับสากล

จะเป็นแชมป์ต้องทำสมาธิอย่างเซนให้ได้

โค้ชคนนี้สอนให้นักเล่นทุกคนรำลึกถึงความเครียดและคลายให้ได้ทันที เพราะเขาสอนว่า หากระหว่างที่เล่นอยู่นั้นเกิดรู้สึกเกร็งที่ไหล่หรือคอ ให้รู้ต้วทันทีว่ากำลังมีปัญหา

ปัญหาของนักเล่นบาสที่รู้สึกเกร็งส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายก็คือ ความคล่องแคล่วจะหายไปทันที แทนที่จะเคลื่อนไหวอย่างธรรมชาติตามที่ได้ฝึกปรือมา ก็จะกลายเป็นอาการเกร็งที่ทำให้ทุกฝีก้าวและจังหวะของมือไม้เริ่มจะตึงและขัด

"ผมสั่งคนเล่นของผมทุกคนว่า ถ้ารู้สึกไหล่ หรือ คอ เกิดเกร็ง หรือ ตึงขึ้นมา ให้บอกตัวเองทันทีว่า เพราะเรากำลังหยุดหายใจเพราะความเครัยด หรือ ความกลัว หรือความไม่ปรกติของร่างกาย..."

รู้ตัวว่าเกร็งเมื่อใด ให้บอกตัวเองว่ากำลังทำสิ่งที่ไม่ควรจะทำ นั่นคือ การหยุดหายใจ

เมื่อรู้ตัวอย่างนั้น จงหายใจใหม่ หายใจเป็นจังหวะช้า และ เต็มที่เสีย แล้วเล่นใหม่ จะสังเกตว่าตัวเองสามารถเรียกพลังกลับมาได้ทันที

โค้ขแจ็คสันบอกว่า "สมาธิแบบเซนสอนว่าเราต้องเพ่งไปที่การหายใจของเรา สังเกตุและติดตามการหายใจ ความนิ่งสงบและคล่องแคล่วก็จะกลับมา เพ่งไปที่ลมหายใจแล้วก็ปล่อนวางเสีย...เราผ่านขณะจิตนั้นไป แล้วก็อยู่ในขณะจิตต่อไป...moment to moment..."

อ่านต่อภาค 3

ยังไม่ได้อ่านภาค 1... อ่านซะซิ

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Phil Jackson and คิดอย่างแชมป์บาสโลก


Phil Jackson is now officially number one on the list of coaches! He surpassed Red Auerbach as the coach with most number of NBA Championships.

Jackson won six titles in the 1990s with Michael Jordan for the Chicago Bulls. Now, he has won fourth with the Los Angeles Lakers last Sunday by beating the Orlando Magic 99-86 on Game 5.

Wearing a cap with the Roman numeral 10, Jackson said he would emulated what Red usually does after each championship victory – to smoke cigars. And he did for the celebration of the victory.

คิดอย่างแชมป์บาสโลก

สำหรับคน"บ้า"บาส (เกตบอล) อย่างผม ("ผม" ในที่นี้เป็นข้อเขียนของ สุทธิชัย และ ปราบดา หยุ่น) ใครมาบอกว่า ถ้าจะเล่นกีฬานี้ให้ดีต้อง "ทำสมาธิแบบเซน" ให้เป็นด้วย ผมก็คงจะหาว่าบ้าเต็มทน แต่แล้วเรื่องไม่น่าเชื่ออย่างนี้ก็เกิดขึ้นได้จริงๆ

เรื่องของเรื่องมาจากโค้ชคนดังชื่อ ฟิล แจ๊คสัน Phil Jackson ของทีม Chicago Bulls ที่เคยมีนักเล่นนามกระเดื่องอย่าง ไมเคิล จอร์แดน หรือ สก็อตตี้ พิบเพ็น กับ เดนนีส รอดแมน

โค้ชฝรั่งคนนี้สร้างความสำเร็จให้กับทีมยักษ์ในการแข่งขันเอ็นบีเอมาแล้ว และเป็นเจ้าของตำราว่าด้วยการเล่นบาสให้เก่งและคล่องแคล่วเสียด้วย

วันก่อนผมฟังเขาสัมภาษณ์เรื่องการสร้างความเกรียงไกรให้กับนักเล่นบาสแล้วก็เกิดความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเกี่ยวกับจิตใจพอๆกับพลังสรีระทีเดียว

เรียกว่าความเป็น "ชีวจิต" เกี่ยวข้องกับการเป็นแชมป์ของนักบาสอย่างน่าทึ่งทีเดียวเชียวแหละครับ

การทำสมาธิแบบเซนไปทำให้นักเล่นบาส นามกระเดื่องเก่งกาจได้อย่างไรหรือ

โค้ชแจ๊คสันผู้รู้ทุกย่างก้าวของคนเล่นบาสระดับสังเวียนโลกบอกว่า เซน Zen เกี่ยวกับการเล่นบาสให้ได้เป็นเบอร์หนึ่งของจักรวาลอย่างแน่นอน

เพราะการเล่นบาสให่้ได้ผลนั้น คนเล่นจะต้องปรับเป้าหมายหนึ่งไปสู่อีกเป้าหมายหนึ่งอย่างรวดเร็ว ไม่น้อยไปกว่าความเร็วของแสงเลยแม้แต่น้อย

และการทำตนให้เป็นเลิศนั้น คนเล่นบาสจะต้องสามารถเคลื่อนขยับด้วย "สมองที่โปร่งแจ้ง" และมีสมาธิเป็นเยี่ยม เพื่อจับได้ว่าผู้เล่นคนไหนกำลังทำอะไรบนสนามในทุกขณะจิตของการพันตู

และโค้ชระดับโลกคนนี้ก็พูดประโยคที่ทำให้ผมถึงบางอ้อทันที

"เคล็ดลับของการทำให้เกิดสมาธิและพุ่งเป้าไปสู่การเล่นบาสที่ได้ผลจริงๆในจังหวะนั้นคือ การไม่คิดอะไรเลย...The secret is, not thinking..."

พูดอย่างนี้จะเข้าใจได้อย่างไร ไอ้"ไม่คิด"จะทำอย่างไร ในเมื่อสมองจะต้องทำงานพร้อมกับร่างกายในขณะที่จะต้องทำคะแนนหรือสกัดกั้นไม่ให้คู่ต่อสู้ทำคะแนนเอาชนะเราให้ได้

เป็นถ้อยอธิบายที่สร้างความงุนงงยิ่งนัก แต่เมื่อฟังคำอรรถาธิบายและคิดตามโค้ชบันลือโลกคนนี้แล้ว ก็เห็นอะไรกระจ่างขึ้น

"การที่บอกว่าอย่าคิดในขณะที่เล่นเกมอย่างดุเดือดเผ็ดมันนั้น ไม่ได้หมายความว่าให้เล่นอย่างงี่เง่านะเพื่อน..." เขาพูดเสริมเหมือนรู้ทันว่าใครได้ยินคำแนะนำแรกเริ่มก็จะต้องเกิดความสงสัยคลางแคลงและทำท่าจะไม่เชื่อเอาง่ายๆ

"ที่ผมบอกว่าอย่าใช้สมองคิดอะไรในยามที่ต้องการเล่นอย่างเป็นเลิศนั้น แปลว่าให้หยุดความคิดฟู้งซ่านหรืออาการวอกแวกของความคิดความอ่านเหมือนลิง เดี๋ยวกระโดดไปคิดโน่นเดี๋ยวกระโดดไปคิดนี่ ไม่มีความนิ่ง อย่างนี้พังแน่..."

อ้าว แล้วจะให้ทำอย่างไรเล่า...

อ่านต่อภาค 2 น่ะจ๊ะ...